วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อย่าดูคนที่ภายนอก Red (2010) - Animation

Red (2010) - Animation อย่าดูคนที่ภายนอก

Scripture: RED - an unusual remake of Little Red Riding Hood. This story about a boy wolf, who is in love with Little Red Riding Hood. Once, a girl goes on a journey, to carry the cakes my grandmother ...



วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การค้นหา 'สินทรัพย์' อันแท้จริง ท่ามกลางเงินธนบัตรที่กำลังหมดคุณค่า

การค้นหา 'สินทรัพย์' อันแท้จริง ท่ามกลางเงินธนบัตรที่กำลังหมดคุณค่า



ในขณะนี้ ความกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทย คือการเฝ้าดูค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสามอาทิตย์ที่ผ่านมา และค่าเงินบาทก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีค่าเงินขึ้นอีก เพราะขณะนี้เงินสกุลดอลลาร์ ปอนด์ ญี่ปุ่น เงินสกุลยูโร และรวมถึงเงินหยวนของจีน ต่างก็กำลังพิมพ์ธนบัตรเงินสกุลของตนเองออกสู่ระบบการเงินอย่างมหาศาล โดยมีเจตนาที่จะทำให้เงินสกุลของตนนั้น มีค่าอ่อนลง

ผลก็คือเงินสกุลเหล่านี้ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์ ที่เป็นเงินหลักของเงินสกุลทั้งหลาย ต่างก็แห่กันมาจมในตลาดเงินของไทย และประเทศในแถวภูมิภาคนี้ เพราะดอกเบี้ยของเงินสกุลดอลลาร์ต่ำกว่าผลตอบแทนทางอัตราดอกเบี้ยของเงินบาทไทย แน่นอน นักลงทุนก็ย่อมต้องการแสวงหาผลตอบแทนทางอัตรดอกเบี้ยที่สูงกว่า ค่าเงินบาทก็เลยแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง

มีการมองกันว่า ทางธนาคาของประเทศไทย อาจจะทำการ 'สกัด' ค่าเงินดอลลาร์ โดยเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์ที่ไหลทะลักเข้ามา โดยมีวัตถุประสงค์ที่ว่า การเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์ในปริมาณหนึ่ง ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีเงินดอลลาร์มากขึ้น เงินบาทน้อยลง ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนตัวลง

แต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ ในปัจจุบัน ต่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีเงินมากมายขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปทำการซื้อเงินดอลลาร์เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงได้เลย

เพราะในปัจจุบัน ธนาคารแห่งสหรัฐอเมริกา ทำการพิมพ์เงินดอลลาร์อย่างไม่ยั้งมือ และเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ก็ไม่เหมือนกับเงินดอลลาร์ในอดีต เพราะเงินดอลลาร์ในอดีตนั้น เรียกว่าเป็นเงินจากระบบที่ผูกติดที่มาจากภาคอุปทาน(system of commodity money of essentially fixed supply) คือปริมาณเงินจะต้องมาจากการเรียกร้องทางภาคอปสงค์และอุปทาน(demand and supply) เงินดอลลาร์ในอดีตจึงต้องผูกติดกับสินทรัพย์(asset)ที่สามารถเปรียบเทียบเคียงกันได้)

ในครั้งหนึ่ง  มีการให้นิยามต่อเงินดอลลาร์ว่า เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่สามารถนำไปเทียบเคียงกับทองคำ อย่างในสหรัฐอเมริกา ในครั้งหนึ่ง เราสามารถนำเงินไปที่ธนาคารเพื่อขอแลกเป็นทองคำ และทางธนาคารเองก็สามารถที่จะนำทองคำไปแลกเปลี่ยนกับทางกระทรวงการคลัง เพื่อแลกซื้อเป็นเงินดอลลาร์ได้

แต่หลังจากปี 1971 ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ได้ออกนโยบายห้ามไม่ให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯทำการแลกเปลี่ยนทองคำกับต่างชาติที่ต้องการซื้อเงินดอลลาร์ ก็เลยทำให้ในปัจจุบัน กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ไม่สามารถมอบการแลกเปลี่ยนที่เป็น 'รูปธรรมและจับต้องได้(tangible)' และแม้ว่าธนาคารกลางจะยังคงเรียกเงินดอลลาร์ว่า ว่าเป็น 'ข้อผูกมัดที่สหรัฐอเมริกามีต่อการแลกเปลี่ยนทางการเงิน' แต่ดูจากสภาพธรรมชาติของเงินดอลลาร์ในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่า เงินดอลลาร์ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดกับใครเลยทั้งสิ้น

ทางรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา ให้คำนิยามว่า เงินดอลลาร์ ตามกฎหมายนั้น เทียบเป็นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1/42.22 ออนซ์ของทองคำ ฟังดูแล้วก็ดูน่าจะเป็นตามที่รัฐสภาของอเมริกาฯให้ความหมายว่าเงินดอลลาร์เทียบกับทองคำได้เท่าใด แต่คุณลองไปที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แล้วบอกว่าคุณมีเงินดอลลาร์เพื่อต้องการจะซื้อทองคำ สิ่งที่คุณได้ก็คือ คุณจะกลับบ้านโดยไม่มีอะไรติดมือเลย นอกจากคุณเอาเงินดอลลาร์ไปซื้อสินค้าในตลาด คุณก็จะได้สินค้าจากตลาดที่คุณไปมา แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าที่คุณได้มานั้น ก็ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดตามกฏหมายว่า เงินดอลลาร์มีค่าอยู่ที่ 1/42.22 ออนซ์ เพราะราคาสินค้าที่คุณเข้าไปซื้อนั้น สามารถถูกปรับราคาขึ้นลง(ส่วนใหญ่ขึ้น) โดยเงินดอลลาร์ของคุณไม่สามารถทำการผูกติดกับอัตราแลกเปลี่ยนกับสินค้าได้ เงินดอลลาร์ไม่ได้ป็นเงินจากระบบที่ผูกติดที่มาจากภาคอุปทาน(system of commodity money of essentially fixed supply)อีกแล้ว

ผลก็คือ เงินดอลลาร์ได้กลายเป็นเงินที่ค่าเสถียรภาพ เพราะเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ไม่ได้รับการหนุน หรือ back จากอะไรทั้งสิ้น บางคนอาจกล่าวว่า เงินดอลลาร์ก็ได้รับการหนุนจากกระทรวงการคลังฯอยู่แล้ว โดยที่กระทรวงการคลังฯสหรัฐอเมริกา ได้ทำการออกพันธบัตรเพื่อนำเงินจากประชาชนมาใช้ในการหนุนหรือ back เงินดอลลาร์ได้อยู่แล้ว
แต่เงินพันธบัตรที่มาหนุนเงินดอลลาร์ เป็นเงินที่รัฐบาลก่อหนี้ขึ้นมามิใช่หรือ ก็แสดงว่าเงินดอลลาร์ได้รับการหนุนจาก 'หนี้' สิครับ! อีกอย่างก็คือ พันธบัตรของรัฐบาลนั้น มีอายุสัญญาในการจ่ายคืนแก่ผู้ซื้อพันธบัตร และเมื่อถึงการกำหนดจ่าย รัฐบาลก็ต้อง 'พิมพ์' เงินดอลลาร์ออกมาเพื่อจ่ายให้กับผู้ซื้อพันธบัตรพร้อมดอกเบี้ยด้วย และรัฐบาลก็จะทำการออกพันธบัตรอีกครั้งต่อประชาชน พร้อมกับพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อหนุนเงินดอลลาร์จากหนี้ที่ถูกก่อรอบใหม่ขึ้นมา เป็นอย่างนี้เรื่อยไป

ดังนั้น หน้าที่ของธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา หรือหน้าที่ของธนาคารกลางในโลกนี้ ไม่ใช่หน้าที่ของการควบคุมปริมาณเงิน หรือสร้างปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกต่อไป แต่หน้าที่ของธนาคารกลางในปัจจุบัน คือการให้ความสะดวกแก่รัฐบาล ผ่านทางกระทรวงการคลัง ในการออกเครดิตให้กับรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังให้ง่ายขึ้น(facilitating credit) คือทำให้มีการพิมพ์ธนบัตรเข้าสู่ระบบการเงินอย่างไม่อั้น รัฐบาลฯโดยผ่านทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สามารถ 'รูดเครดิต' ได้อย่างสบายมือ
และนั่นคือสิ่งที่ผมได้กล่าวมาตอนต้นว่า ไม่ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์มากเพียงใด ก็ไม่สามารถหยุดหรือสกัดการไหลเข้ามาของเงินดอลลาร์ได้ เพราะเงินดอลลาร์ไม่ได้มีอะไรหนุนอีกต่อไป จะพิมพ์สักเท่าใดก็ได้

ค่าเงินบาทในปัจจุบัน จึงต้องแข็งตัวต่อไป และความพยายามของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเข้าไปสกัดเงินดอลลาร์ หรือเงินยูโป โดยการเข้าไปซื้อเงินสกุลเหล่านี้ ก็หมายความว่า ในที่สุดทางธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คงต้องออกพันธบัตร มิฉะนั้นนโยบายในการคงอัตราดอกเบี้ยไม่ให้เกิน 3% คงไปได้ด้วยความลำบาก และถ้าไม่ทำ สภาพเงินเฟ้อก็จะปรับตัวสูงขึ้น สินค้าในตลาดก็จะแพงมากขึ้น

ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือหัวข้อที่ผมได้พูดถึงการหา 'สินทรัพย์' ที่แท้จริงในชีวิตของพวกเราจากนี้ไป เพราะต่อแต่นี้ไป เราคงเชื่อใจเงินกระดาษไม่ได้อีกต่อไป สิ่งที่เราควรทำ(ขอโทษน่ะครับ ไม่ได้มีเจตนาเทศน์ต่อท่านผู้อ่าน) คือการเข้าใจว่า อะไรคือสินทรัพย์แท้ในชีวิตของเรา สำหรับผมแล้ว สินทรัพย์ที่แท้จริงนั้น คือ

 1 สุขภาพของเรา  คุณดูแลสุขภาพของคุณเป็นอย่างไร เพราะถ้าคุณมีสุขภาพดี คุณก็มีกำลังทางปัญญาในการมองปัญหาเหล่านี้ด้วยสติ และถ้าคุณมีสุขภาพดี คุณก็จะไม่เป็นภาระใคร เช่นการวิ่งหรือเดินเร็ว วันหนึ่งสักสามถึงห้ากิโลเมตร

2 หมั่นหาความรู้ เรียนวิชาการใหม่ๆ อย่างโรงเรียนสารพัดช่างต่างๆ ก็มีหลักสูตรที่น่าสนใจ และราคาก็ถูก เช่นวิธีการก่อปูนเอง ทาสีเอง ตัดผม หรือซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ฯ ทักษะเหล่านี้ ถ้าคุณฝึกได้ ก็สามารถนำไปใช้กับการดูแลซ่อมแซมบ้านเรือนของตนเอง หรือช่วยดูแลซ่อมแซมบ้านหรือเครื่องใช้ญาติของคุณ ตลอดจนเพื่อนๆของคุณได้ ความสามารถเหล่านี้ จะนำความภูมิใจมาสู่คุณ ไม่ต้องคิดฟุ้งฟ่านต้องไปเดินห้างฯให้เสียเงิน และคุณจะได้รับการรักใคร่จากญาติมิตรและเพื่อนๆ อีกด้วย

3 หัดเรียนภาษาต่างประเทศ การฝึกเรียนภาษาต่างประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อเซลล์สมองคุณมาก ทำให้ท่านหลีกเลี่ยงอาการโรค Alzheimer ได้ เพราะตัว synapse หรือตัวจุดประสานประสาท สื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลในระบบประสาท ให้มีการตื่นตัวเสมอ เหมือนกับเอาเซลล์สมองไปยกกล้าม การเรียนภาษาต่างประเทศจึงเป็นประโยชน์แก่สมองคุณมาก หรืออย่างเช่นไม่ชอบประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ  คุณก็อาจเรียนภาษาของพวกเขา เผื่อคุณจะได้ด่าเขาอย่างเต็มปากในภาษาของเขา หรือการเรียนภาษาพวกเขา อาจจะทำให้คุณเข้าใจพวกเขามากขึ้นก็ได้ นำมาซึ่งความสุขให้แก่คุณ ลดโรคความดันกับเบาหวานให้แก่คุณเป็นอย่างดี  แถมคุณยังได้ภาษาอีกหนึ่งภาษาให้กับตัวคุณด้วย

สินทรัพย์เหล่านี้ ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวคุณเลย และเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ทันที สิ่งเดียวที่ท่านต้องทำกรลงทุนต่อสินทรัพย์แท้เหล่านี้ คือลงทุนทางด้านเวลาเท่านั้นเอง

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หยุดทาน อาหารโหลๆ (Junk food) แล้วหัด ทานอาหาร ตามธรรมชาติบ้าง

หยุดทาน อาหารโหลๆ (Junk food) แล้วหัด ทานอาหาร ตามธรรมชาติบ้าง


      ระบบการศึกษายุคนี้ เป็นแบบ “รู้ลึกโง่กว้าง” สุดท้าย ตายน้ำตื้น โดนพ่อค้าแม่ค้าหลอกเอาสารเคมี ใส่ลงไปในอาหาร ทานเข้าไปทุกวัน แบบ “โง่ ตาใส” เรียนก็สูง การงานก็ดี แต่ สอบตก เรื่องพฤติกรรมการทานอาหาร เร่งรีบ โดนหลอก หลงตนเอง ขี้เกียจ มักง่าย สุดท้าย “ทานแบบด่วน ก็ตายแบบด่วน” กลับบ้าน ทานข้าวกับพ่อแม่ ลูกเมียบ้าง ทานอาหารนอกบ้าน น่ากลัวนะ จะบอกให้


ดู TV ให้น้อยลง และ หันไป ลงมือทำอะไรด้วยตนเองมากขึ้น

ดู TV ให้น้อยลง และ หันไป ลงมือทำอะไรด้วยตนเองมากขึ้น






ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ห่างไกลจอทีวี จอ Internet บ้าง สุขภาพของท่าน จะโดนทำลาย ทั้งสายตา กล้ามเนื้อสะบักไหล่ กระดูกจะปวดทั้งที่หลังและที่คอ โรคกระเพาะอาหาร นอนน้อย และ อื่นๆ สุดท้าย เงินเก็บที่หามาได้ จะหมดลง เพราะ เป็นค่าใช้จ่ายให้โรงพยาบาล นั่งรถเข็นหรือนอนพะงาบพะงาบ ช่วยตนเองไม่ได้บนเตียง และ ไม่มีลูกหลานมาดูแล เพราะ ท่านทอดทิ้งพวกเขา มาหมกมุ่นอยู่หน้าจอทั้งวัน ท่านลืมออกกำลังกาย ความรัก ความผูกพันในครอบครัวจะหายไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างอยู่มากขึ้น


ไก่ KFC ที่อเมริกา

ไก่ KFC ที่อเมริกา 


ไก่ที่นำรูปมาให้ดูนี้เกิดจากอะไรท่านหลายคนอาจจะไม่รู้ก็เป็นได้ว่าเกิดจากอะไรกัน เวลาการกลายพันธ์จากตัวโตเติมไวอายุ 70 วัน แล้วตัวโตสู้ ตัวที่มีอายุแค่ 48 วันเป็นไปได้เช่นไร เรามาดูกัน

เหตุผลของผู้บริโภค


  • ถ้าให้เลือกกินระหว่างไก่ที่ราคาถูกกว่า เนื้อมากกว่า เราจะเลือกอะไร.
  • เนื้อไก้ ที่เรากินจากทางบ้านมันอาจจะไม่ถูกปาก
  • หาซื้อได้ง่าย
  • เนื้อนุ้มดี 
  • มีความรู้สึกว่าเหมือนเป็นการยก-ระดับอาหารการกินในชีวิตประจำวัน
  • อยากเปลี่ยนบรรยากาศกินนอกบ้าน
  • ความหรู รสนิยม  ค่านิยม 


เหตุผลของผู้ผลิต


  • ทำอย่างไรให้ได้เงินมากที่สุด

บทความนี้จะมาต่อที่ผลไม้และผลจากการกินผัก GMO

มาดูผลมะเขือเทศบอกอะไรได้บ้าง


คงจะงงว่า monsanto คืออะไร

โปรดดูสาระ โคตรดีเรื่องนี้




“คำแนะนำ ๑๒ ประการ สำหรับชีวิตในโลกปัจจุบัน” โดย อ.วรภัทร์ ภู่เจริญ ๑

“คำแนะนำ สำหรับชีวิตในโลกปัจจุบัน”

๑.อย่าเชื่อโฆษณา

     นักการตลาด นักโฆษณา มากมาย ใช้ เทคนิค ศิลปะการยั่วยวน ให้คึกที่จะซื้อ นับวันจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เร่งให้เป็นนักซื้อ หัดสร้างหนี้ตั้งแต่เป็นเด็กๆกันเลยทีเดียว ศาสตร์ทางการตลาด โฆษณา สื่อสารมวลชน กลายเป็นศาสตร์ที่ “ติดลบ” “อกุศล“มากขึ้น เสื่อมลงมากขึ้น คนในวงการ ไม่ควบคุมกันเอง ไม่ตักเตือนกัน ดังนั้น เราในฐานะผู้บริโภค ก็ต้องเลิกเสพสื่อ เลิกเชื่อโฆษณา สอนลูก สอนหลาน สอนเยาวชน ให้เห็น กลลวงต่างๆ ให้มากขึ้น รู้ให้ทัน




โลลิคอน = กินเด็ก

โลลิคอน




บทความนี้มีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก.
เยาวชนควรใช้วิจารณญาณ ผู้ปกครองไม่ควรอ่านเกินวันละสองครั้ง 
มือถือสากปากถือศีลควรปิดตา กระทรวงไอซีทีและกระทรวงวัฒนธรรมไม่ควรชม
สื่อมวลชนไม่ควรเอาไปเผยแพร่ ส่วนแฟนพันธุ์แท้ควรติดตาม


แปล คือ กินเด็ก

                                              ผู้กินเด็กจมีอาการดังแมวตัวนี้




ชายที่อายุสูงกว่ามาก มีความรู้สึกเสน่หากับเด็กผู้หญิงอายุเพียง 12 ปี ในประเทศญี่ปุ่นคำๆนี้จะใช้แทนพฤติกรรม ของผู้ที่มีอายุสูงกว่ามาก ที่มีความรู้สึกเสน่หา หรือมีความรู้สึกส่วนตัวเป็นพิเศษ กับเด็กที่อายุราวๆ 10-20 ปี หรือต่ำกว่านั้นในบางกรณี ส่วนนอกประเทศญี่ปุ่นนั้น คำนี้มักหมายถึงประเภทของการ์ตูน หรือ อะนิเมะ ซึ่งตัวละครที่เป็นเด็กผู้หญิง จะสามารถแสดงออกถึงท่าทางที่เซ็กซี่เกินวัย

องค์ประกอบพื้นฐานทางกายภาพ




รูปโลลิ ในเกม H 11 ลูกตา






นี้ก็ อายุ 500+



พลังของโลลิ









โลลิ อายุ 90+




รูปนี้ น่ารัก มัย อายุ 15 ก็ยังตายได้สวย โลลิตรงไหน ?


โลลิหัวแดง




วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Food, Inc. เปิดโปง บริโภคช็อคโลก



Food, Inc. เปิดโปง บริโภคช็อคโลก










Food , Inc. กลายเป็นสารคดีที่ ?อื้อฉาว? ที่สุดในรอบปี 2009 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากแรงกระเพื่อมในหมู่คนดูที่วิพา­กษ์วิจารณ์สิ่งที่หนังนำเสนออย่าง เผ็ดร้อน เสียงสนับสนุนจากนักโภชนาการอาหาร นักเศรษฐศาสตร์ และการฟ้อง ร้องใหญ่โตของบริษัทผลิตอาหารกว่า 5 ราย ก็กลายเป็นแรงหนุนสำคัญให้ Food , Inc. เป็นหนังสารคดีที่ ?ทุกคน? ควรเข้ามาชมร่วมกันโดยพร้อมหน้า เนื่องจากผู้กำกับ โรเบิร์ต เคนเนอร์ กำลังจะพาคุณเข้าไปสัมผัสเบื้องลึกเบื้องห­ลังของธุรกิจอาหาร (ทั้งเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้) แบบเจาะลึก ลึกขนาดที่เห็นความ
ฟอนเฟะ ไม่น่าอภิรมย์ และชวนให้น้ำย่อยหายไปง่ายๆ

มีการพูดกันมากว่าหลาย ทศวรรษแล้วว่า ธุรกิจการผลิตอาหารในสหรัฐอเมริกานั้น เต็มไปด้วยความ ฉ้อฉล มันถูกกำหนดและวางกรอบโดย ?ตัวเงิน? เป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นบริษัท ผลิตอาหารเกือบทุกบริษัทจึงให้ความสำคัญกั­บ ?ปริมาณ? มากกว่า ?คุณภาพ? แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น พวกเขายังคำนึงถึง ?กำไร? มากกว่า ?ความปลอดภัย? ของผู้บริโภค

แต่ Food , Inc. จะไม่ได้บอกกล่าวแค่ว่า อาหารที่เรารับประทานกันอยู่นั้น ไม่ปลอดภัยเพียงอย่างเดียว หากแต่มันยังตั้งอยู่บนความเอารัดเอาเปรีย­บ ความเห็นแก่ตัว ยังรวมไปถึงการกระทำที่ผิดศีลธรรม โดยที่เราๆ ท่านๆ อาจไม่รู้ตัว





Food, Inc.  ENG






The film's first segment examines the industrial production of meat (chicken, beef, and pork), calling it inhumane and economically and environmentally unsustainable. The second segment looks at the industrial production of grains and vegetables (primarily corn and soy beans), again labeling this economically and environmentally unsustainable. The film's third and final segment is about the economic and legal power, such as food labelling regulations of the major food companies, the profits of which are based on supplying cheap but contaminated food, the heavy use of petroleum-based chemicals (largely pesticides and fertilizers), and the promotion of unhealthy food consumption habits by the American public.[3][6] It shows companies like Wal-Mart transitioning towards organic foods as that industry is booming in the recent health movement.



5 เรื่องร้าย By มอนซานโต


เหตุผล 5 ประการว่าทำไมมอนซานโตจึงถูกต่อต้าน

1. กอบโกยจากสารเคมีเป็นพิษในนามของธุรกิจด้านการเกษตร
2. ผูกขาดอุตสาหกรรมการเกษตรไว้แต่เพียงผู้เดียว
3. ควบคุมอุตสาหกรรมอาหาร กีดกันการเข้าถึงแหล่งน้ำ
4. ครอบงำ FDA และตั้งกฎหมายเพื่อปกป้องตนเอง
5. ก่อหายนะให้สิ่งแวดล้อมอย่างไม่หยุดยั้ง

แถมแมวๆ







วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประวัติมอนซานโต้





ประวัติมอนซานโต้


บริษัทมอนซานโตก่อตั้งเมื่อปี 1901 โดย จอห์น ฟรานซิส ควีนนี  (John F. Queeny) โดยชื่อมอนซานโต้มาจากชื่อของภรรยาของเขา คือ โอลกา มอนซานโต้ ควีนนี ( Olga Monsanto Queeny ) ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือสารเคมีที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล ซัคคารินโดยมีบริษัทโคคา โคล่า เป็นคู่ค้าสำคัญ 

ในยุคสงครามโลกครั้งที่ บริษัทนี้เริ่มผลิตสารเคมีเองเพราะไม่สามารถนำเข้าสารเคมีจากยุโรปได้ โดยในปี 1929 มอนซานโตเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นบริษัทขนาดใหญ่จากการผลิตสาร PCBs(Polychlorinated biphenyls) สารเคมีนี้ใช้อย่างแพร่หลายในสารหล่อลื่น น้ำมัน และใช้ผสมอยู่ในพลาสติก สีทาบ้าน ต่อมาพบว่าสารเคมีชนิดนี้เป็นสารพิษที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง และความพิการในทารก ตลอดจนการเสียชีวิตของทารก

ระหว่างปี 1939 – 1948 บริษัทมอนซานโตได้ร่วมในโครงการทดลองวิจัยแร่เกี่ยวกับยูเรเนียมเพื่อใช้ในโครงการแมนฮัตตัน เพื่อผลิตระเบิดนิวเคลียร์

มอนซานโต้กระโจนเข้าสู่อุตสาหกรรมเคมีเกษตรตั้งแต่ปี 1945 เป็นต้นมา โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสารเคมีปราบวัชพืช 2,4 D สร้างผลกำไรให้แก่บริษัทอย่างมาก

ระหว่างปี 1961-1971 บริษัทมอนซานโต้ซึ่งเป็นร่วมกับบริษัทดาวเคมิคอลในการผลิต สารสีส้มหรือ ฝนเหลือง” (Agent Orange) โดยสารพิษร้ายแรงนี้ได้จากการผสมกันของ สารเคมีชื่อ 2,4,5-T และ 2,4-D เข้าด้วยกัน สารนี้เป็นพิษร้ายแรงทั้งต่อมนุษย์และพืชพรรณ สหรัฐโปรยสารพิษนี้ทางอากาศเพื่อทำลายผืนป่าและพื้นที่เกษตรในเวียดนาม ป้องกันไม่ให้เวียดกงหลบซ่อนในป่าทึบ ทำลายอาหารในเขตเวียดนามเหนือหวังกดดันให้ศัตรูยอมแพ้เพราะขาดอาหาร สารพิษนี้ถูกพ่นไป 76 ล้านลิตร ในพื้นที่ 10 ล้านแฮกตาร์ หรือ 12% ของพื้นที่ของเวียดนามใต้ในขณะนั้น   ฆ่าชาวเวียดนามไปประมาณ 400,000 คน พิการ 500,00 คน และเจ็บป่วย 1-2 ล้านคน รวมไปทั้งทหารอเมริกันบางส่วนด้วย

ในปี 1972 มอนซานโตผลิตสารเคมีปราบศัตรูพืชชนิดใหม่ชื่อสามัญคือไกลโฟเสท “Glyphosate” หรือชื่อการค้า Roundup สารเคมีชนิดนี้ต่อมาแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมอนซานโต้ผลิตพืชจีเอ็มโอที่ต้านทานต่อยาปราบวัชพืชนี้ ทำให้สามารถขายควบทั้งเมล็ดพันธุ์และสารเคมีปราบวัชพืชไปพร้อมๆกัน

ในปี 1987 มอนซานโตเริ่มวิจัยพันธุ์พืชจีเอ็มโอแต่เริ่มมีการผลิตและประสบผลสำเร็จในการปลูกเพื่อการค้าอย่างจริงจริงในปี 1996

ก่อนหน้านั้น 2 ปีคือในปี 1994 มอนซานโตได้ผลิตสารกระตุ้นการผลิตน้ำนมในวัว rBGH และ rBST มีชื่อการค้าว่า Polisac การใช้สารนี้ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการให้น้ำนมของวัวประมาณ 8-17%  สารนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย CODEX แม้ว่าพยายามถึง 3 ครั้ง ปัจจุบันพบว่าสารกระตุ้นการเจริญเติบโตชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการเกิดเนื้องอก มะเร็งทรวงอกและรังไข่ ลดภูมิต้านทานของร่างกาย และเกิดผลกระทบต่อการดื้อยาปฏิชีวนะ โดยประเทศในสหภาพยุโรปยกเลิกการใช้สารเคมีนี้แล้ว เช่นเดียวกับในหลายประเทศ เช่น ญี่ป่น ออสเตรเลีย เป็นต้น

ความสำเร็จของมอนซานโต้ซึ่งเกิดจากการซื้อบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทของตน การใช้กฎหมายสิทธิบัตรเพื่อผูกขาดเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปให้การสนับสนุนนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ควบคุมนโยบายเกษตรและอาหาร ทำให้มอนซานโต้สามารถผูกขาดตลาดเมล็ดพันธุ์พืชสำคัญในสหรัฐได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์


บริษัทนี้ได้เติบโตอย่างรวดเร็วกลายเป็นบรรษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก และหนึ่งในห้าบริษัทสารเคมีการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของโลก


บทความหน้าจะว่าด้วยเรื่องที่โหดร้ายของมอนซานโต้






ของแถมอีกรอบ



คำคมก่อนจะถึงจันทร์

คำคมก่อนจะถึงจันทร์

จากละคร อยู่กับก๋ง

คำคม





  • คนที่ไม่เป็นระเบียบ ชีวิตจะยุ่งเหยิง คนที่ไม่รักความสะอาด จะหาความสดชื่นแจ่มใสไม่ได้ และคนที่ไม่รักความสุจริต ชีวิตจะมีมลทิน (บทที่ 1 รุ่งอรุณ ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • ไม่ต้องอายที่เป็นคนจน แต่ควรอายที่เป็นคนเลว เพราะความจนความรวยเราเลือกไม่ได้ แต่ความดีความเลวเราเลือกทำเลือกเว้นได้ (บทที่ 1 รุ่งอรุณ ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • ไม่ใช่ว่าดวงดีแล้วจะร่ำรวยได้ ก่อนจะสร้างตัวได้สำเร็จเขาจะต้องผ่านการทำงานอย่างหนักมาแล้วด้วย รู้จักหาเงิน รู้จักเก็บงำ รู้จักคิดหาช่องทางต่อทุน ฐานะของเขาจึงเป็นปึกแผ่นขึ้นมาได้ ไม่มีใครโชคดีถึงกับนอนขี้เกียจอยู่ข้างถนนแล้วเทวดาจะโยนถุงเงินลงมาให้ถังหน้าตัก...จำไว้ (บทที่ 2 พบกันที่ตลาด ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • เขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราก็ตามใจเขา แต่อย่าไปโกรธหรือเกลียดชังเขา ในโรงเรียนและในตลาดเรายังหาเพื่อนที่จะคบเราอย่างจริงใจได้อีกมากมาย ขอให้เราเป็นคนดีเท่านั้น (บทที่ 2 พบกันที่ตลาด ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • ความจริงของคนคนหนึ่ง ไม่ใช่ความจริงของคนทั้งหมด (บทที่ 4 ในสำรับคนยาก ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • เรียนไปเถอะหยก คนจนต้องหาวิชาไว้เลี้ยงตัว เพราะไม่มีเงินทองไว้ให้ใช้สอยโดยไม่ต้องทำงาน ตอนเด็กทุกคนมีหน้าที่เรียน โตแล้วทำงาน...คนมีวิชาติดตัวยากนักที่จะอับจน แพ้คนยาก และไม่เสียเปรียบใครด้วย ถ้าไม่มีวิชาติดตัวเลยจะทำงานสูงๆ อะไรก็ไม่ได้ ต้องเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ติดอยู่กับดินกับทรายตลอดชีวิต...พยายามเรียนไปเถอะหยก หมดสมองที่จะเรียนเมื่อไรค่อยหยุด (บทที่ 4 ในสำรับคนยาก ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • การตอบแทนบุญคุณทำได้หลายรูป...แต่รูปที่เหมาะที่สุดคือต้องให้สะดวกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ (บทที่ 7 ครูบรรยงค์ ข้อความนี้ก๋งพูดกับหยก)
  • คนไม่ผิดผมลงโทษไม่ได้ แต่คนผิดผมไม่ลงโทษให้ได้ (บทที่ 15 ลำดวนและน้ำตาของหยก ครูบรรยงค์พูดกับศึกษาธิการอำเภอ)

แมลงสาปบ้านผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกกกก


แมลงสาปบ้านผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกกกก

ลักษณะภายนอก



ที่มาของรูป Gokicha!! Cockroach Girl! จากมังกะ 4 ช่องจบ เมื่อปีเตอร์ เอ้ย แมลงสาบโมเอะ อยากเป็นเพื่อนกับมนุษย์
คำว่าปีเตอร์ทำไมถึงเรียกแทนคำว่าแมลงสาปก็เป็นเช่นนี้เอง แม่ม สนุกละ แมลงสาปญี่ปุ่นนะ เนี้ยจะว่าไปประเทศเทยเราก็มีแมลงสาปเหมือนกันนะจ๊ะ นะจ๊ะ  นะจ๊ะ 



ว่าไงอยากเลียงมันไว้ติดบ้างแล้วยัง ห๊ะ
แมลงวาป หรือ แมลงสาบ หรือ ปีเตอร์ เป็นแมลง มีปีกสีดำขลับ มักอาศัยในห้องครัวหรือจานอาหารในสภาพที่ทอดสุกกรุบกรอบแล้ว เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ผู้คนเกลียดอย่างไร้เหตุผล
ทั้งที่การวิจัยออกมาว่า แมลงวาปทำให้สังคมสะอาดขึ้น และแมลงวาป (พยายาม) รักความสะอาดมาก (ในแบบของมัน)
นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษอันน่ามหัศจรรย์ ถ้าแมลงวาปรู้ว่าคนไหนกลัวแมลงวาป แมลงวาปจะพุ่งเข้าหาทันที




มนุษย์แมลงวาป

แมลงวาปมนุษย์ สามารถพบได้ในที่มนุษย์มักชอบอยู่เป็นสังคม เช่น สถาบันการศึกษา หรือที่ทำงาน
แมลงวาปชนิดนี้มักมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มักจะถูกมนุษย์คนอื่นๆ ตรวจจับได้ง่าย เนื่องจากเป็นที่รังเกียจของสังคม นอกจากนี้รายงานสำคัญระบุว่า แมลงวาปมนุษย์ปรากฏตัวชุกชุมเป็นพิเศษ ในที่สำคัญทางราชการเช่น รัฐสภา อีกด้วย

ความสามารถ

แมลงสาบวิวัฒนาการเป็นมนุษย์
สำหรับหลักฐานที่ปรากฏจนสามารถ ทำให้นักวิทยาสาด ตั้งสมมติฐานได้มากมาย
  • เชื่อกันว่า แมลงวาป เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลก และลูกหลานของแมลงวาปได้กลายพันธุ์จนกลายเป็นต้นตระกูลของแมลงประเภทต่างๆ
  • นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแมลงวาปโดยเข้ามาอยู่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ตั้งแต่ก่อนยุคไดโนเสาร์ โดยหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบซากฟอซซิลในชั้นหินซึ่งอยู่ก่อนจากชั้นหินที่พบซากโครงกระดูกเลยทีเดียว
  • ความสามารถอดอาหารได้เป็นเวลานานมากๆ โดยยังสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความรวดเร็วในระดับปกติ และการที่มีพลังชีวิตในระดับสูงและความทนทานต่อการเจ็บปวดต่างๆ ได้ดี
จากการวิจัย ชี้ให้เห็นว่า แม้จะถูกตัดหัว แมลงวาปก็ยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีก 7 วัน ซึ่งพลังชีวิตระดับนี้นั้น มีไว้ก็เพื่อให้สามารถรับแรงกดดันในชั้นบรรยากาศนอกดาวเคราะห์นั่นเอง
  • สาเหตุที่ แม้จะมีปีก แต่แมลงวาปกลับบินได้ในระดับที่ไม่สูงนัก
เพราะว่า ในยุคที่บรรพบุรุษของแมลงสาบยังมีชีวิตในอวกาศนั้น เผ่าพันธุ์แมลงวาปอยู่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง ทำให้แมลงวาปสามารถบินได้อย่างอิสระและรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก ซึ่งทำให้แมลงวาปสามารถกักเก็บพลังงานในการท่องอวกาศไปได้เป็นอย่างมาก เหตุนี้ เมื่อเข้ามาอยู่ภายใต้ขแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ แมลงวาปจึงทำได้เพียงต่อต้านแรงดึงดูด ได้ในระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น
  • เผ่าพันธุ์แมลงวาปทนต่อโรคระบาด สารเคมี แม้แต่กัมมันตรังสี ถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก
แมลงวาปจะเป็นผู้นำในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่รอด และจะวิวัฒนาการแทนที่มนุษย์ และครอบครองโลกแทนมนุษย์
  • ความสามารถพิเศษ ในการรับรู้ว่าผู้ใดกลัวแมลงวาป เพื่อเข้าโจมตี เพราะแมลงวาปมีเรดาห์ที่หัว คอยตรวจสอบหาเหยื่ออยู่ตลอดเวลา

ของแถมแมวๆ

 





ที่มาของแมลงสาบ